จุดเริ่มต้น

The Masterpiece เวทีบันลือโลก เป็นรายการโทรทัศน์ที่เป็นโครงการใหญ่ระดับโลก เนื่องจากผลิตภายใต้ความร่วมมือระหว่างบริษัทบันเทิงขนาดใหญ่ของ 2 ประเทศ ได้แก่ บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) จากประเทศไทย และฟ็อกซ์ อัลเทอร์นาทีฟ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ กับสมาร์ตด็อก มีเดีย จากสหรัฐ[1] ซึ่งความร่วมมือนี้เกิดจากความสำเร็จของเวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ ในการผลิตรายการ The Mask Singer หน้ากากนักร้อง ที่สร้างชื่อเสียงในประเทศไทยเป็นอย่างมาก จนทำให้สหรัฐโดยฟ็อกซ์ อัลเทอร์นาทีฟ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ และพันธมิตรคือสมาร์ตด็อก มีเดีย ได้ซื้อลิขสิทธิ์ไปผลิตออกอากาศในรูปแบบของสหรัฐ และรายการนี้ยังประสบความสำเร็จและสร้างชื่อเสียงในสหรัฐได้เป็นอย่างมากเช่นกัน ทำให้เคร็ก เพลสติส ผู้อำนวยการผลิตของสมาร์ตด็อก กลับมาชักชวนให้เวิร์คพอยท์มาร่วมสร้างโครงการใหญ่ด้วยกันกับเขาอีกครั้ง[2]

รายการนี้ถือเป็นความท้าทายอีกขั้นของเวิร์คพอยท์ในการพิสูจน์ศักยภาพและการก้าวผ่านขีดจำกัดเดิม เพื่อสร้างการแสดงจากผลงานชิ้นเอกให้เป็นมาตรฐานระดับโลก และเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้แก่วงการโทรทัศน์ของประเทศไทยอีกครั้ง[2] และยังถือเป็นการร่วมพัฒนารูปแบบรายการของฟ็อกซ์ อัลเทอร์นาทีฟ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ และสมาร์ตด็อก มีเดีย เพื่อออกอากาศนอกสหรัฐ โดยได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนพัฒนารูปแบบรายการไร้สคริปต์สากลของฟ็อกซ์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ ซึ่งหากรูปแบบรายการนี้ประสบความสำเร็จจะนำไปผลิตเพื่อออกอากาศในประเทศอื่น ๆ อีกด้วย[3]

แนวคิด

The Masterpiece เวทีบันลือโลก เป็นรายการแข่งขันประกวดการแสดงที่นำ "ผลงานชิ้นเอก" (Masterpiece) ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในระดับโลก มาใช้เป็นต้นแบบเพื่อทำการแสดงในรูปแบบใหม่ เสมือนการทำให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ผ่านการตีความหมายใหม่ หรือการใส่ความคิดสร้างสรรค์เพิ่มเติมลงไปในการแสดงของผู้กำกับและนักแสดงทั้ง 9 ทีม[1] โดยนักแสดงจะออกมาจากผลงานต้นแบบเพื่อทำการแสดงในรูปแบบใหม่ ซึ่งมีทั้งการร้องเพลง แสดงตลกเดี่ยว และการเต้นรำ[4] และเมื่อการแสดงสิ้นสุดลง นักแสดงจะกลับไปสู่ผลงานต้นแบบ โดยผลงานชิ้นเอกทุกผลงานสามารถนำมาทำการแสดงในรูปแบบใหม่ได้ทั้งหมด

การผลิต

ในรายการนี้ การแสดงจากผลงานชิ้นเอกในแต่ละการแสดง จะเป็นเสมือนกับการผลิตภาพยนตร์ในแต่ละเรื่อง ซึ่งใช้ทีมงานมากกว่า 500 คน และงบประมาณในการผลิตจำนวนมาก โดยในทุก ๆ การแสดง จะมีการสร้างฉากขึ้นมาใหม่ทั้งหมด รวมไปถึงมีการออกแบบเสื้อผ้า การแต่งหน้า การทำผม ของนักแสดงทุกคน ที่เน้นตามเรื่องราวของผลงานชิ้นเอกแต่ละผลงาน[2]